การใส่ใจในเรื่องสุขภาพของผู้สูงวัย เพื่อมีอายุยืนยาวขึ้นกับครอบครัว

[heymamaz]

เมื่อคนที่เรารักเข้าสู่วัยสูงอายุ ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเขาเองที่เปลี่ยนไป แต่ทั้งครอบครัวก็ต้องปรับตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของท่านอย่างใกล้ชิด เพราะสุขภาพที่ดีในวัยสูงอายุไม่เพียงส่งผลให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ท่านสามารถใช้ชีวิตอยู่กับลูกหลานได้อย่างมีความสุข ยืนยาว และมีคุณค่า เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะเริ่มเสื่อมถอย ไม่ว่าจะเป็นระบบภูมิคุ้มกัน กล้ามเนื้อ กระดูก หรือแม้แต่การทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นการดูแลสุขภาพกายในวัยสูงอายุจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เริ่มตั้งแต่การรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับวัย เช่น อาหารที่มีไฟเบอร์สูง ไขมันต่ำ ลดเค็ม ลดหวาน และเน้นโปรตีนที่ย่อยง่าย การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย เช่น เดินช้า ๆ โยคะผู้สูงวัย หรือไทเก๊ก ก็สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ลดความเสี่ยงในการหกล้ม และช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

สุขภาพจิตของผู้สูงวัยเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย หลายคนเมื่อเกษียณอายุ ออกจากงาน หรือสูญเสียคู่ชีวิต อาจรู้สึกเหงา ขาดคุณค่า หรือไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิต การมีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว ลูกหลาน หรือเพื่อนบ้าน การได้พูดคุยและมีบทบาทในครอบครัว เช่น ช่วยเลี้ยงหลาน ทำกับข้าว หรือแนะนำประสบการณ์ชีวิต ล้วนช่วยให้ท่านรู้สึกว่าตนเองยังมีความหมาย กิจกรรมง่าย ๆ อย่างการปลูกต้นไม้ ฟังเพลง วาดรูป หรืออ่านหนังสือ ก็สามารถช่วยคลายความเครียด เพิ่มความสุขในแต่ละวัน และลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าในผู้สูงวัยได้ โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจ เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงวัย การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้สามารถค้นพบโรคในระยะเริ่มต้น ทันตกรรมผู้สูงอายุ และสามารถควบคุมหรือรักษาได้ทันก่อนจะลุกลาม นอกจากนี้ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสายตา การได้ยิน สุขภาพฟัน และสุขภาพกระดูก ซึ่งล้วนเป็นส่วนที่เสื่อมลงตามวัย บ้านที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงวัยควรปรับให้เหมาะสมกับการเคลื่อนไหว เช่น พื้นไม่ลื่น มีราวจับในห้องน้ำ ทางเดินไม่มีสิ่งกีดขวาง และแสงสว่างเพียงพอ สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ช่วยลดอุบัติเหตุจากการหกล้ม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยหรือพิการในวัยสูงอายุ ผู้สูงวัยไม่ต้องการสิ่งของล้ำค่ามากเท่ากับ “เวลาและความเข้าใจ” จากลูกหลาน การได้ใช้เวลาด้วยกัน เช่น พูดคุย ทานอาหารร่วมกัน หรือออกไปเดินเล่น เป็นสิ่งที่เติมพลังใจอย่างมหาศาลให้กับท่าน ความรู้สึกว่าไม่ได้ถูกทอดทิ้งยังช่วยให้ท่านมีแรงใจในการดูแลตัวเองและใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีเป้าหมาย