การจัดฟันด้านใน รอยยิ้มสวยไร้เครื่องมือ

[siritidaphon]

การจัดฟันด้านใน รอยยิ้มสวยไร้เครื่องมือ

การจัดฟันเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ ช่วยให้มีรอยยิ้มสวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น  โดยการจัดฟันแบบดั้งเดิมนั้นใช้เครื่องมือจัดฟันติดด้านนอกของฟัน แต่การจัดฟันด้านใน (Lingual Braces)  เป็นเทคนิคการจัดฟันแบบใหม่ที่ติดเครื่องมือไว้ด้านในของฟัน ช่วยให้รอยยิ้มดูสวยงามโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก


ข้อดีของการจัดฟันด้านใน

ความสวยงาม: การติดเครื่องมือไว้ด้านในของฟัน ช่วยให้รอยยิ้มดูเป็นธรรมชาติ มองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน
ความมั่นใจ: หลายคนไม่มั่นใจที่จะใส่เครื่องมือจัดฟันแบบดั้งเดิม การจัดฟันด้านในช่วยให้ยิ้มได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรูปลักษณ์
การออกเสียง: เครื่องมือจัดฟันด้านในมีขนาดเล็กและบางกว่าเครื่องมือจัดฟันแบบดั้งเดิม จึงมีผลกระทบต่อการออกเสียงน้อยกว่า
ความสะดวก: การจัดฟันด้านในไม่จำเป็นต้องใส่ยางดึงฟัน และไม่ต้องถอดเครื่องมือเพื่อทำความสะอาด
สุขภาพช่องปาก: การจัดฟันช่วยให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น ฟันเรียงตัวสวยงาม ทำความสะอาดง่าย ลดความเสี่ยงต่อโรคเหงือกและฟันผุ


ขั้นตอนการจัดฟันด้านใน

ปรึกษาแพทย์: ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก และประเมินความเหมาะสมในการจัดฟัน
พิมพ์ฟัน: พิมพ์ฟันเพื่อสร้างแบบจำลองของฟัน ใช้สำหรับออกแบบเครื่องมือจัดฟัน
ติดเครื่องมือ: ติดเครื่องมือจัดฟันด้านในของฟัน
ปรับเครื่องมือ: พบแพทย์เพื่อปรับเครื่องมือตามแผนการรักษา โดยทั่วไปจะพบแพทย์ทุก 6-8 สัปดาห์
ถอดเครื่องมือ: เมื่อฟันเรียงตัวสวยงามแล้ว แพทย์จะถอดเครื่องมือออก
ระยะเวลาในการรักษา
ระยะเวลาในการรักษาโดยทั่วไปอยู่ที่ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาและความร่วมมือของคนไข้


ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันด้านในนั้นสูงกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม   โดยทั่วไปอยู่ที่ 70,000 - 150,000 บาท

ผลข้างเคียง

การระคายเคือง: ในช่วงแรกอาจรู้สึกระคายเคืองในช่องปาก อาการจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
การออกเสียง: อาจมีปัญหาการออกเสียงในช่วงแรก แต่จะปรับได้เองภายในระยะเวลาสั้นๆ
การแตกหัก: เครื่องมือจัดฟันด้านในมีความเสี่ยงต่อการแตกหักมากกว่าเครื่องมือจัดฟันแบบดั้งเดิม


การดูแลรักษาหลังจัดฟัน

แปรงฟัน: แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที โดยใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน และยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
ใช้ไหมขัดฟัน: ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อทำความสะอาดซอกฟันที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึง
ใช้เครื่องมือทำความสะอาด: ใช้เครื่องมือทำความสะอาดเพิ่มเติม เช่น แปรงซอกฟัน ไหมขัดฟันแบบดึง หรือ Water flosser เพื่อทำความสะอาดบริเวณที่แปรงสีฟันและไหมขัดฟันทั่วไปเข้าไม่ถึง
ใช้ยาบ้วนปาก: ใช้ยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ วันละ 1-2 ครั้ง หลังแปรงฟัน
นัดพบกับทันตแพทย์: ไปพบทันตแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจติดตามผลการรักษา และทำความสะอาดฟันอย่างมืออา