บริการทำความสะอาด: “กรดไฮโดรคลอริก” สารอันตรายในน้ำยาล้างห้องน้ำไม่ปลอดสารพิษแม้ว่าการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ดี จะต้องเน้นไปที่คุณสมบัติช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกให้หมดจด แต่รู้ไหมว่าโดยส่วนมากแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีส่วนประกอบที่อันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมแฝงอยู่!
เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างห้องน้ำที่ไม่ค่อยมีแบบปลอดสารพิษ ด้วยสารประกอบบางชนิดที่มักจะใส่เข้ามา เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำความสะอาดคราบฝังลึกต่าง ๆ อันแตกต่างไปตามพื้นผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “กรดไฮโดรคลอริก” อีกหนึ่งชนิดของสารเคมีอันตรายที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในน้ำยาล้างห้องน้ำ เพื่อเสริมการออกฤทธิ์ขจัดคราบสิ่งสกปรกให้หายไปภายในไม่กี่นาที แม้จะมีข้อดีด้านการใช้งาน แต่รู้ไหมว่าที่จริงแล้วมีผลเสียมากกว่านั้น!
คลอริก (Hydrochloric Acid) สารพิษแฝงในน้ำยาล้างห้องน้ำ
กรดไฮโดรคลอริก (Hydrochloric Acid) หรือกรดเกลือ ส่วนผสมหลักที่ทำให้น้ำยาล้างห้องน้ำหลาย ๆ ขวดไม่ปลอดสารพิษ ด้วยฤทธิ์ความเป็นกรดที่ทำปฏิกิริยากัดกร่อนคราบต่าง ๆ บนพื้นผิว จึงทำให้ตอบโจทย์คุณสมบัติด้านการทำความสะอาดที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพการขจัดคราบสกปรก และรอยเปื้อนต่าง ๆ ได้ในระยะเวลาไม่กี่นาที เช่น คราบสบู่ แชมพู ผงซักฟอก คราบสนิม คราบหินปูมสะสม ตลอดจนคราบดำบนยาแนวที่ทำให้ดูสกปรก
ทว่าข้อดีของการกัดกร่อนนี้ แม้จะให้ประโยชน์ด้านการทำความสะอาดมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เป็นผลดีแก่สุขภาพและสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอย่างแน่นอน เพราะเพียงแค่ได้สัมผัส หรือสูดดมไอระเหยเข้าไปในร่างกาย สารพิษนี้ก็จะเริ่มสะสม พร้อมก่อให้เกิดปัญหาที่เป็นภาระต่อสุขภาพในอนาคต ซึ่งถ้าใครอยากจะหลีกเลี่ยงก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดออร์แกนิก จำพวกน้ำยาล้างห้องน้ำแบบปลอดสารพิษ ไม่มีกรดไฮโดรคลอริก แต่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติมาทดแทนคุณสมบัติการทำความสะอาด ก็สามารถใช้ได้ดีไม่แพ้กัน
ความอันตรายของกรดไฮโดรคลอริก
ยิ่งขึ้นชื่อว่าเป็นกรด ยิ่งมีโทษต่อร่างกายเป็นเรื่องธรรมดา ทว่ากระบวนการผลิตน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีกรดไฮโดรคลอริกเป็นส่วนประกอบนั้น ยังก่อให้เกิดผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ลองมาดูความอันตรายของน้ำยาล้างห้องน้ำที่ไม่ปลอดสารพิษกันดีกว่า ว่าจะมีโทษอย่างไรบ้าง?
ผลกระทบต่อร่างกาย
ส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา เกิดอาการระคายเคืองในจมูกและลำคอ หากสูดดมเป็นระยะเวลาติดต่อกัน อาจทำให้เยื่อบุจมูกบวมจนอุดตันทางเดินหายใจจนทำให้หอบ หรือหายใจไม่ทันได้
แสบร้อนบริเวณผิวหนัง อาจทำให้เกิดรอยไหม้จากการถูกกรดกัดผิว และทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้ หรือในกรณีที่สัมผัสโดยเล็กน้อยก็อาจจะทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองได้เช่นเดียวกัน
เสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก เกิดจากโดนไอระเหยของกรดไฮโดรคลอริก ทำร้ายเซลล์กระจกตาจนตาย และทำให้ความดันในตาเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นต้อกระจกได้
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ทำให้เกิดฝนกรด เกิดจากการระเหยของกรดไฮโดรคลอริกจนไปสะสมอยู่บนชั้นบรรยากาศ ประกอบกับการควบแน่นของไอน้ำ จนกลายเป็นฝนที่มีความเป็นกรดสูง
ทำลายระบบนิเวศทางน้ำ เกิดจากการปนเปื้อนในกรณีโรงงานที่ผลิตไม่มีการควบคุมให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นไปตามมาตรฐาน ปล่อยสารเคมีปนเปื้อนลงในน้ำ จนส่งผลกระทบลูกโซ่ต่อระบบนิเวศทั้งหมดได้